4 gambling psychology that gamblers should study
เมษายน 8, 2021
4 จิตวิทยาการพนันที่นักเดิมพันควรศึกษา
การพนันแทบทุกชนิดบนโลกใบนี้ไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรมที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้ 100% เพราะปัจจัยในการเสี่ยงโชคส่วนใหญ่มักจะมีเรื่องของดวงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยไม่มากก็น้อย ดังนั้นความสามารถในการควบคุมระบบความคิดและสภาพจิตใจของผู้เล่นจึงเป็นสิ่งสำคัญ บทความนี้จึงขอนำเสนอ 4 จิตวิทยาการวางเดิมพันที่นักพนันควรศึกษา เพื่อใช้เป็นแนวทางการเล่นให้ประสบความสำเร็จต่อไป
1.มนุษย์ทุกคนชอบความเสี่ยง
เรื่องนี้มีงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์รองรับว่าชีวิตที่ราบเรียบเปรียบเสมือนชีวิตที่ตายแล้ว ดังนั้นคนส่วนใหญ่บนโลกใบนี้มักจะต้องแสวงหากิจกรรมที่ท้าทายความสามารถของตัวเองอยู่เสมอ บางคนอาจจะเล่นกีฬาเพื่อการแข่งขัน บางคนอาจเล่นดนตรีเพื่อให้ชีวิตมีสีสัน สล็อต ออนไลน์ แต่กิจกรรมอันดับหนึ่งที่คนส่วนใหญ่มักเลือกทำก็คือการวางเดิมพันที่มีความตื่นเต้นนั่นเอง ดังนั้นในสามัญสำนึกของคนทุกคนมีปัจจัยที่ทำให้เราต้องอยู่กับความเสี่ยงตลอด ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นที่มาของการที่คนมักจะเดินเข้ามาสู่วงการพนันเพราะมันเป็นกิจกรรมที่เล่นง่ายและไม่ต้องใช้ความชำนาญอะไรเลยด้วยซ้ำ
- ความสามารถในการควบคุมตนเอง
ปัญหาใหญ่ที่สุดของนักพนันส่วนใหญ่คือขาดความยับยั้งชั่งใจในการวางเดิมพัน เนื่องจากพวกเขามักมองว่าการเดิมพันคือการแข่งขันที่จำเป็นต้องหาวิธีเอาชนะให้ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วผลลัพธ์ในการวางเดิมพันคือสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ต่อให้ใช้เงินมากมายขนาดไหนเราก็ไม่สามารถเปลี่ยนผลการเดิมพันได้อยู่ดี สิ่งเดียวที่ทุกคนสามารถทำได้คือควบคุมการเล่นของตัวเองให้เหมาะสม และเฝ้าระวังสภาพจิตใจของตัวเองให้ดี ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของอารมณ์ที่ยึดติดกับผลการแข่งขันที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้นั่นเอง
- คำว่าใกล้ไม่ได้หมายความว่าสำเร็จ
ทฤษฎีนี้คือปัจจัยที่ทำให้คนติดการพนันมากที่สุด เนื่องจากคำว่า “เฉียด”หรือ “เกือบ” จะได้เงินนั้น ทำให้นักพนันมีความเชื่อมั่นว่าหากพวกเขาพยายามอีกนิด เพิ่มเงินเดิมพันอีกหน่อย วันหนึ่งจะต้องประสบความสำเร็จอย่างแน่นอน ซึ่งจิตวิทยาข้อนี้คือการเล่นกับความรู้สึกอยากได้เงินรางวัลก้อนใหญ่ของนักพนันนั่นเอง ซึ่งหารู้ไม่ว่าหลายคนใช้ชีวิตอยู่กับคำว่าเฉียดมานานหลายสิบปีก็ยังไม่มีวี่แววที่จะประสบความสำเร็จในการวางเดิมพันเลย
4.ความเข้าใจผิดในเรื่องความน่าจะเป็น
หลายคนคิดว่าการพนันเป็นเรื่องของดวงที่มีโอกาสได้และเสียพอ ๆ กัน เมื่อคิดแบบนี้แล้วพวกเขาจะใช้ความรู้สึก หรือความน่าจะเป็นในการตัดสินใจเดิมพัน มากกว่าข้อมูลหรือสถิติที่สืบค้นได้ ยกตัวอย่างเช่น หากโยนเหรียญเสี่ยงทายแล้วออกหัว 3 ครั้งติดต่อกัน คนกลุ่มนี้มักจะคิดว่าโอกาสที่จะออกก้อยในครั้งหน้ามีมากกว่าหัวอย่างแน่นอน ซึ่งวิธีนี้เป็นการเล่นพนันที่ย้อนแย้งกับหลักการเดิมพันเป็นอย่างมาก เพราะในทุก ๆ การโยนเหรียญความเสี่ยงก็ยังคงเป็น 50-50 เช่นเดิม ไม่ใช่ 60-40 หรือ 70-30 แต่อย่างใด